เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนใหม่ เด็กนักเรียนอายุ 12-17 ปี หรืออยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หรือเทียบเท่า จะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ยี่ห้อ Pfizer ซึ่งได้รับการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลกแล้วว่าให้ฉีดในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้
ขณะเดียวกันทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ก็ได้จัดโครงการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มสำหรับนักเรียนอายุ 10-18 ปีเช่นกัน จึงทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองลังเลใจว่า ควรให้ลูกฉีดวัคซีน ไฟเซอร์ หรือ ซิโนฟาร์ม ดีกว่า ถ้าอย่างนั้นเราลองมาดูข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณา
วัคซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm)
ภาพจาก diy13 / Shutterstock.com
จากข้อมูลเดือนกันยายน 2564 ประเทศที่อนุมัติให้ใช้วัคซีนซิโนฟาร์มแบบฉุกเฉินกับเด็ก-วัยรุ่น ได้แก่ ประเทศจีน (อายุ 3-17 ปี), สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (อายุ 3-17 ปี), ชิลี (อายุ 6 ขวบขึ้นไป) รวมทั้งศรีลังกา หลังผลการทดลองทางคลินิกพบว่า วัคซีนตอบสนองภูมิคุ้มกันได้ดีไม่ต่างจากการฉีดในผู้ใหญ่
ส่วนในประเทศไทย บริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด ผู้ได้รับอนุญาตนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มในประเทศไทย ได้นำเอกสารมายื่นขออนุมัติให้ใช้วัคซีนซิโนฟาร์มในเด็กตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป แต่ขณะนี้ทาง อย. ยังไม่อนุมัติ เนื่องจากต้องรอผลวิจัยการใช้วัคซีนในเฟส 3 เข้ามาเพิ่มเติม รวมทั้งต้องทราบข้อมูลที่ชัดเจนว่าต้องฉีดเท่าไรในเด็ก เพราะปริมาณต่างจากผู้ใหญ่
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จัดให้ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มในเด็กอายุ 10-18 ปีนั้น เป็นโครงการศึกษาวิจัยที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจาก อย. แต่ทางผู้ปกครองต้องให้ความยินยอม
ภาพจาก tunasalmon / Shutterstock
หน่วยงานสาธารณสุขระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นองค์การอนามัยโลก (WHO), องค์การยายุโรป (EMA), ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC), สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา แนะนำให้กลุ่มเด็กที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป สามารถฉีดวัคซีนไฟเซอร์ได้ ทำให้หลายประเทศทั้งในอเมริกา ยุโรป เอเชีย เดินหน้าฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กนักเรียนแล้ว ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก็อนุมัติให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กอายุ 12-17 ปีได้เช่นกัน
สิ่งที่ผู้ปกครองหลายคนเป็นกังวลก็คือ ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis) จากการฉีดวัคซีนชนิด mRNA ซึ่งพบได้ทั้งวัคซีนไฟเซอร์ และโมเดอร์นา โดยรายงานในช่วงแรกระบุว่า มักเกิดภาวะนี้ในเด็กชายอายุ 12-17 ปี ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แต่อัตราการเกิดยังน้อยมาก และส่วนใหญ่สามารถหายเองได้ หรือรักษาจนหายได้
ก่อนที่ภายหลังศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (CDC) จะรายงานว่า พบอุบัติการณ์ของโรคนี้สูงขึ้น โดยในเด็กผู้ชายอายุ 12-17 ปี อยู่ที่ 62.5 ต่อล้านโดส และในเด็กผู้หญิงอายุ 12-17 ปี อยู่ที่ 17 ต่อล้านโดส
สอดคล้องกับงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่ระบุว่า อัตราการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และโรคเยื่อหุ้มหัวใจ หลังการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ในเด็กผู้ชายที่มีสุขภาพดี มีอัตราสูงขึ้น ซึ่งทำให้อัตราความเสี่ยงจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กผู้ชายอายุ 12-15 ปี มากกว่าความเสี่ยงติดเชื้อโควิด ดังนี้
เด็กชาย
เด็กหญิง
สำหรับในประเทศไทย จากข้อมูลจนถึงวันที่ 5 กันยายน 2564 ที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ไปแล้วประมาณ 1 ล้านโดส พบเด็กชายอายุ 13 ปี เพียง 1 คน ที่มีภาวะดังกล่าว คิดเป็น 0.11 ต่อแสนโดส ซึ่งผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงและรักษาหายเป็นปกติแล้ว
เช็กอาการหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) กับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
วัคซีนทั้งสองประเภทต่างก็มีจุดเด่น-จุดด้อย ซึ่งมีข้อเปรียบเทียบเพื่อประกอบการพิจารณาคือ
วัคซีนไฟเซอร์มีประสิทธิภาพในการต้านทานไวรัสที่สูงกว่าวัคซีนซิโนฟาร์ม รวมทั้งไวรัสโคโรนา สายพันธุ์เดลตา ที่ระบาดในประเทศไทย
วัคซีนไฟเซอร์ได้รับการรับรองจากองค์กรด้านสาธารณสุขระดับโลกหลายแห่ง รวมทั้ง อย. ประเทศไทย ว่าสามารถใช้สำหรับเด็กอายุ 12-17 ปีได้ ขณะที่วัคซีนซิโนฟาร์ม ทาง อย. ประเทศไทย ยังไม่ได้อนุมัติ (ข้อมูลเดือนกันยายน 2564) ยกเว้นกรณีเพื่อศึกษาวิจัยที่ไม่ต้องขออนุญาต อย. อย่างเช่นโครงการ VACC 2 School ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
วัคซีนไฟเซอร์ถูกนำมาฉีดให้เด็ก ๆ ในหลายประเทศแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สเปน ฮ่องกง ฯลฯ ส่วนวัคซีนซิโนฟาร์ม ปัจจุบันมีการอนุมัติใช้กับเด็ก 4 ประเทศ คือ จีน ศรีลังกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และชิลี (ข้อมูลเดือนกันยายน 2564)
วัคซีนซิโนฟาร์มมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากผลิตจากเชื้อตาย อันเป็นเทคโนโลยีดั้งเดิมที่ใช้ผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนโปลิโอ ฯลฯ ส่วนวัคซีนไฟเซอร์เป็นวัคซีนชนิด mRNA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ยังไม่เคยใช้มาก่อน จึงยังไม่ทราบว่าจะมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวหรือไม่
ในเด็กผู้ชายจะมีความเสี่ยงภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ (วัคซีนชนิด mRNA) สูงกว่าเด็กผู้หญิง ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง สามารถรักษาหายได้ ขณะที่วัคซีนซิโนฟาร์ม ยังไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรงในเด็ก
หากมีประวัติเป็นผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือภาวะหัวใจล้มเหลว ควรปรึกษาแพทย์ประเมินภาวะของโรคก่อนฉีดวัคซีน mRNA
เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 ได้ออกคำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิด 19 สำหรับเด็กและวัยรุ่น ฉบับที่ 2 โดยแนะนำให้ฉีดวัคซีนที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้การรับรองใช้ในเด็กและวัยรุ่นแล้ว ซึ่งปัจจุบันยังมีเพียงวัคซีนไฟเซอร์ชนิดเดียว พร้อมแนะนำให้เด็กอายุ 16-18 ปี ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ส่วนเด็กอายุ 12-16 ปี แนะนำให้ฉีดวัคซีนในกรณีเป็นผู้ป่วยเด็กกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคเรื้อรัง ขณะที่ส่วนเด็กอายุ 12-16 ปี ที่แข็งแรง และเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี ให้รอผลการศึกษาถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2564 ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ได้ปรับคำแนะนำการฉีดวัคซีนให้เด็ก ดังนี้
- เด็กและวัยรุ่นอายุ 16-18 ปี แนะนำให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ได้ทุกรายที่ไม่มีข้อห้ามในการฉีดวัคซีน
- เด็กอายุ 12 ปี ถึงน้อยกว่า 16 ปี ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง มีโรคประจำตัว แนะนำให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม
- เด็กผู้หญิงอายุ 12-15 ปี ทุกคน สามารถรับวัคซีนไฟเซอร์ได้ 2 เข็ม
- เด็กผู้ชายอายุ 12 ปี ถึงน้อยกว่า 16 ปี ที่แข็งแรงดี ให้วัคซีนไฟเซอร์ 1 เข็ม และชะลอการฉีดเข็มที่ 2 ออกไปก่อน จนกว่าจะมีคำแนะนำเพิ่มเติม
เนื่องจากข้อมูลความปลอดภัยของวัคซีนในเด็กผู้ชายยังไม่เพียงพอ จากข้อมูลในสหรัฐอเมริกาพบความเสี่ยงการเกิดกล้ามเนื้อหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบในเด็กชายอายุ 12 ปี จนถึงน้อยกว่า 16 ปี มีจำนวน 162.2 คน ต่อการฉีดวัคซีนเข็มสอง 1 ล้านโดส ขณะที่เด็กผู้หญิงพบอัตราการเกิดเพียง 13 คน ต่อการฉีดวัคซีนเข็มสอง 1 ล้านโดส
◆ อาการหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) แบบไหนไม่รุนแรง-แบบไหนต้องระวังใน 30 วัน
◆ เช็กที่นี่ ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำอย่างไร - ลงทะเบียนที่ไหน ดีเดย์ 4 ต.ค.
◆ สรุปข้อมูลวัคซีนโควิด ซิโนฟาร์ม มีประสิทธิภาพแค่ไหน ผลข้างเคียงเป็นยังไง
◆ เตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนโควิดอย่างไร ห้ามกินอะไรบ้าง
◆ ก่อนฉีดวัคซีนโควิดกินยาพาราได้ไหม ช่วยดักไข้ได้หรือเปล่า
◆ ฉีดวัคซีนโควิดได้ไหม ถ้าเป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด แพ้ยา แพ้อาหาร
◆ ฉีดวัคซีนโควิด กับ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ต้องมีระยะห่างกันแค่ไหนดี แนะวิธีวางแผนก่อนฉีด
◆ 12 วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดวัคซีนโควิด 19 ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ห้ามกินอะไรบ้าง
◆ ปวดแขนหลังฉีดวัคซีน ทำยังไง บรรเทาปวดด้วยวิธีไหนได้บ้าง
* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 27 กันยายน 2564
ขอบคุณข้อมูลจาก
กรมควบคุมโรค
เฟซบุ๊ก โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
เฟซบุ๊ก Infectious ง่ายนิดเดียว
เฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์
โรงพยาบาลกรุงเทพ
เฟซบุ๊ก ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย (1), (2)
เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan
เฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha (1), (2)
ThaiPBS (1), (2)